เกมRESIDENT EVIL REVELATIONS


Resident Evil Revelations ถือเป็นเซอร์ไพรส์เกมนึงเมื่อ Capcom ประกาศพัฒนาซีรี่ส์ไบโอลงให้กับเครื่องมือถืออย่าง 3DS ตั้งเปิดตัวครั้งแรก และนี่ถือเป็นอีกครั้งที่ไบโอภาคเต็มถูกนำมาลงให้กับเครื่องเกมมือถือ หลังจาก Gaiden ซึ่งออกให้กับ Gameboy เมื่อสิบปีที่แล้ว และเนื่องจากการที่ทางทีมสร้างได้ให้คำสัญญากับแฟนๆว่าจะทำผสมผสานความเป็นไบโอแบบดั้งเดิมลงไป จึงทำให้หลายๆคนโดยเฉพาะแฟนซีรี่ส์นี้ต่างจับตามองว่าทิศทางของการพัฒนาเกมจะออกไปในทางไหน





สำหรับเนื้อเรื่องของ Resident Evil Revelations เปิดตัวที่ Jill Valentines และคู่หู Parker ภายใต้สังกัด BSAA ซึ่งได้เดินทางมาถึงเรือร้าง Queen Senobia เพื่อตามหา Chris Redfield ตามพิกัดสุดท้ายที่เค้าได้ทิ้งไว้ก่อนขาดการติดต่อไป เริ่มเกมเราจะได้บังคับเป็น Jill และตัวเกมก็เริ่มขึ้นตามรูปแบบดั้งเดิม นั่นคือสำรวจเรือเพื่อค้นหาหลักฐาน แต่แน่นอนว่าทางหนีทีไล่ย่อมถูกตัดขาดตั้งแต่ทีแรก เมื่อมีบุคคลนิรนามแอบลอบทำลายเรือที่ Jill และ Parker นั่งมา ทำให้ทั้งคู่ต้องติดอยู่ในเรือไม่สามารถหนีออกมาได้
ตัวฉากเป็นออกเป็นส่วนหลักๆคือห้องลูกเรือ และส่วนของโรงแรม (ตามสไตล์ซีรี่ส์ไบโอที่ต้องมีฉากห้องสไตล์วินเทจใส่เข้ามาเสมอ) เนื่องจากภาคนี้ดูเหมือนว่าทางทีมงานต้องการที่จะเน้นไปที่ความสยองขวัญมากขึ้น ตัวฉากโดยส่วนใหญ่จึงกลายเป็นทางเดินแคบๆ มีหัวมุมเยอะๆ หรือไม่ก็เป็นห้องที่เต็มไปด้วยข้าวของกระจัดกระจาย ไม่ได้สะดวกต่อการเคลื่อนไหวมากนัก หลายจุดถูกทำให้มืดเพื่อสร้างบรรยากาศชวนขนลุก และเกมจะเน้นซาวเอฟเฟคค่อนข้างเยอะ ทำให้การเดินสำรวจฉากในช่วงแรกๆค่อนข้างเต็มไปด้วยความลุ้นว่าจะมีตัวอะไรโผล่ออกมา ศัตรูใหม่อย่าง Ooze ที่เป็นศัตรูหลักในภาคนี้ก็มีความสามารถในการเข้าไปยังตามท่อ ทำให้เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าศัตรูจะโผล่มาได้ทางไหนเมื่อไหร่ และหลายครั้งพี่แกก็เลือกที่จะโผล่แบบโครมครามต่อหน้าให้ได้สะดุ้งเล่นอยู่หลายที

อย่างไรก็ตามแทนที่จะให้ผู้เล่นตกอยู่ในบรรยากาศแห่งความสยองตลอดทั้งเกม ทีมสร้างกลับเลือกที่จะใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบตัดไปยังมุมมองคนอื่น เมื่อเกมเล่าเรื่องไปยังบางจุดเช่นช่วงเหตุการณ์ของคริสและคนอื่นๆในทีม BSAA เกมก็จะตัดไปยังจุดนั้นและให้เราบังคับเป็นตัวละครนั้นๆในช่วงระยะเวลาสั้นๆ โดยตัวเกมการเล่นจะเน้นหลักๆไปที่แอคชั่น ไม่มีการอัพเกรตหรือความต่อเนื่องจากเกมหลักแต่อย่างใด เนื่องจากอาวุธและกระสุนที่มีให้ก็ถูกออกแบบมาให้เล่นได้พอสำหรับช่วงเหตุการณ์นั้นๆอยู่แล้ว และเมือจบจุดนั้นไป เกมก็จะตัดกลับเข้ามาที่เนื้อเรื่องหลักของ Jill นอกจากนี้ตัวเกมยังถูกแบ่งออกเป็นตอนๆ เหมือนทีวีซีรี่ส์ โดยใช้วิธีเล่าเรื่องไปจนถึงจุดที่น่าสนใจ แล้วก็ตัดจบตอน เริ่มต้นตอนใหม่ ก็จะมีการเล่าย้อนความหลังให้ฟัง ซึ่งวิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ถือว่าน่าสนใจสำหรับธรรมชาติของเกมแบบเครื่องมือถือ ที่ผู้เล่นอาจจะมีเวลาเล่นแต่ละช่วงไม่มากนัก แต่อาจจะขัดใจบ้างสำหรับคนเล่นคอนโซลที่มีเวลานั่งเล่นนานๆ
ตัวเนื้อเรื่องเองโดยภาพรวมไม่มีความน่าสนใจเป็นพิเศษ เหตุการณ์และตัวละครใหม่เกือบทั้งหมด (ยกเว้นจิลและคริส) ไม่มีความต่อเนื่องใดๆจากภาคหลักหรือภาคก่อนๆ มีเพียงการอ้างถึง T-Virus ที่ถูกนำมาผสมกับ T-Abss เพื่อใช้ในการก่อการร้ายของกลุ่ม Veltro ถ้าพูดกันตรงๆส่วนตัวค่อนข้างเริ่มเลี่ยนกับเนื้อเรื่องที่เอาเชื้อไวรัสมาแพร่กระจายเพื่อครองโลกแล้ว เนื่องจากแรงจูงใจในลักษณะนี้มันดูเป็นการ์ตูนมากเกินไป และที่สำคัญการนำเสนอกลุ่มตัวละครใหม่ๆโดยที่ไม่มีเรื่องราวพื้นหลังที่แน่นพอ มันทำให้ผู้เล่นไม่มีอารมณ์ร่วมกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในเกมมากนัก แม้ว่าตัวเนื้อเรื่องจะมีจุดหักมุมหลายจุด แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกประหลาดใจมากเท่าไหร่ คงต้องบอกว่าภาคนี้มีวิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ แต่ตัวเนื้อเรื่องเองกลับไม่ได้มีความน่าสนใจเท่าที่ควร
การออกแบบศัตรูในภาคนี้ถือว่ากลางๆ ไม่ได้มีอะไรที่น่าจดจำมากนัก ถ้าไม่นับฮันเตอร์ที่โผล่เข้ามาในช่วงเนื้อเรื่องตัวละครอื่น ก็ถือว่าศัตรูในเกมนี้เป็นศัตรูใหม่ทั้งหมด บอสหลักๆมีอยู่เพียง 3-4 จุด (รวมบอสใหญ่) วิธีการสู้ก็เพียงแค่การยิงจุดสำคัญ ส่วนตัวพบว่าตัวเกมมีปัญหาในการบาลานซ์เกมนิดหน่อย เนื่องจากทั้งเกมไม่ค่อยมีจุดสู้ศัตรูที่ถือว่าท้าทายมากนัก แต่กลับกลายเป็นไปตกหนักที่บอสใหญ่ไปเลยที่ยากผิดจากชาวบ้านชาวช่อง
ระบบการเล่นหลักๆเหมือนกับภาคหลักของไบโอหลังจากยุคไบโอ 4 เป็นต้นมา แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็คือการที่ตัวละครสามารถเคลื่อนไหวได้ขณะที่กำลังเล็งเป้า ซึ่งถือว่าช่วยให้การเล่นสามารถทำได้ไหลลื่นมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้เกมง่ายขึ้นหรือน่ากลัวน้อยลงแต่อย่างใด เพราะระหว่างการเคลื่อนไหว เป้าจะไม่ได้อยู่กับที่ ทำให้การเล็งยากมากขึ้น และหลายครั้งกลับกลายเป็นเราเลือกที่จะยืนอยู่กับที่เพื่อยิงแทน ดังนั้นถ้าแฟนๆหลายคนกังวลว่าการที่ไบโอสามารถเดินยิงได้จะทำให้เกมนี้กลายเป็นเกมแอคชั่นเต็มตัวไปนั้น คงไม่ต้องกลัวแต่อย่างใด ที่สำคัญคือศัตรูภาคนี้ค่อนข้างเร็วและอึด หลายครั้งพบว่าเรายังถูกมันตามมาทุบได้แม้แต่ตั้งปืนยิงตั้งแต่ไกลแล้วก็ตาม การอัพเกรตอาวุธของเราจะมีแค่ในเนื้อเรื่องหลักของจิล (ซึ่งคิดเป็นประมาณ 70% ของเกม) โดยวิธีการอัพเกรตจะเป็นการเก็บ Custom Part มาใส่ในสล้อตของอาวุธแต่ละชิ้น เช่นเพิ่มความแรง 40% หรือเอฟเฟคชะงัก 50% แต่เนื่องจากตัวเกมถูกแบ่งย่อยค่อนข้างเยอะ ทำให้การเก็บ Custom Part ไม่ได้มีความยากเท่าไหร่นัก และการอัพเกรตก็ไปค่อนข้างเร็ว เพราะจุดที่เราจะใช้ได้มีเพียงช่วงของจิลเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีระบบโยกหลบที่ถ้าเรากดปุ่มทิศทางพร้อมปุ่ม B ในจังหวะที่ศัตรูกำลังฟันเรา ก็จะสามารถโยกหลบการโจมตีได้ (มีประโยชน์มากสำหรับการสู้บอส) อาวุธเสริมก็มีแตกต่างกันไปตามตัวละคร โดยแต่ละคนก็จะมีมากกว่าหนึ่งชนิด เช่นมีด หรือระเบิดพก เวลาจะใช้ก็กดปุ่มใช้ได้เลย ไม่ต้องมีการเล็งหรือกดเลือกสลับแต่อย่างใด หลักๆเป้าหมายของการใช้อาวุธเสริมจะไว้ในการทำให้ศัตรูชะงักหรือหนีการโจมตีมากกว่า
ภาคนี้ใช้ระบบออโต้เซฟตามจุดเช็คพ้อยเป็นหลัก ทำให้เราไม่สามารถเลือกเซฟได้ตามใจชอบ กระสุนและอาวุธที่มีให้ค่อนข้างจำกัด (เนื่องจากศัตรูไม่ดรอปไอเทมหรือกระสุนให้) การหาของเพิ่มจึงเน้นไปที่การใช้ระบบสแกนฉาก อย่างไรก็ตามหลายครั้งก็พบว่าเราไม่ได้มีโอกาสหนีศัตรูมากนัก เนื่องจากฉากที่แคบและปริมาณศัตรูที่ค่อนข้างมาก ทำให้กลายเป็นว่าจำนวนกระสุนที่มีติดตัวจะมีแค่เกือบพออยู่ตลอดเวลา (และเราก็ไม่สามารถพกได้จำนวนมากเนื่องจากตัวเกมจำกัดปริมาณไอเทมที่ถือได้) ตัวอาวุธเองเราสามารถพกได้แค่ 3 อย่างสูงสุด ส่วนที่เหลือจะถูกเก็บไว้ในหีบ โดยเราสามารถเลือกอาวุธและทำการอัพเกรตได้ตามหีบ ที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆของเกม ที่ตลกคือด้วยการที่เป็นแบบออโต้เซฟ ทำให้บางครั้งมีหีบตั้งอยู่ในจุดสู้บอสให้ด้วย เพราะเกมจะเซฟ ณ จุดที่สู้กับบอสเลย ทำให้ผู้เล่นไม่มีการโอกาสกลับไปทำอะไรก่อนหน้าถ้าหากเลยจุดออโต้เซฟมาแล้ว
กราฟฟิค ต้องเรียกว่า สวยที่สุดของ 3DS ณ เวลานี้ ส่วนนึงอาจจะมาการการออกแบบรวมถึงการใช้แสงและปรับโทนในฉากที่มีความแตกต่างกันไปด้วย ภาพที่ได้ค่อนข้างใกล้เคียงกับเกมยุค PS2 +อัพเกรตในส่วนของเอฟเฟคบางอย่างเช่นพวก Normal Mapping และถ้าปิดโหมดภาพ 3D ก็จะได้ AA X2 แถมมาให้ด้วย น่าเสียดายที่ฉากเนื้อเรื่องกลับเป็นไฟล์มูวี่ที่ถูกบีบอัดซะจนเห็น Pixel แม้ว่าตัวโมเดลในฉากมูวี่จะเป็นอันเดียวกันกับในเกม แต่การเรนเดอร์ที่ละเอียดขึ้นทำให้ภาพที่ได้ดูแล้วค่อนข้างตลก เหมือน FMV เกมสมัยยุค PS
เสียง ถือเป็นจุดเด่นของเกมนี้ เพราะเป็นบบเสียงรอบทิศทาง และสร้างอารมณ์ร่วมให้กับตัวเกมได้ค่อนข้างมาก ดนตรีประกอบให้อารมณ์แนวเดียวกับเกมซีรี่ส์ Outbreak ที่เน้นไปที่โทนเศร้าๆ น่าเสียดายที่ Track ที่น่าจดจำมากที่สุดกลับกลายเป็น Track ที่เป็นไตเติ้ลของเกม
โดยรวมส่วนตัวถือว่าค่อนข้างประทับใจและค่อนข้างชอบหากซีรี่ส์ไบโอเลือกที่จะไปในทิศทางนี้ แม้ว่าตัวเกมจะมีความยากลำบากในการเล่นอยู่บ้างจากธรรมชาติของเครื่องเกมมือถือที่ไม่ได้สะดวกที่จะเล่นเกมที่มีแอคชั่นแบบนี้เท่าไหร่นัก ตัวเกมและบรรยากาศทำออกมาได้ค่อนข้างดีมาก แม้ว่าเนื้อเรื่องอาจจะแหม่งๆและไได้สร้างอารมณ์ร่วมได้เท่าไหร่ก็ตาม แต่ถ้าใครมี 3DS หรือเป็นแฟนเกมนี้ แนะนำว่าไม่สมควรพลาดครับ อ้อเกมมีความยาวประมาณ 7-8 ชั่วโมงสำหรับการเล่นครั้งแรกนะ แถมมี Raid Mode ที่เอาไว้เล่นคล้ายๆกับ Mercernaries ที่สำคัญคือโหมดนี้สามารถเล่นออนไลน์ และของที่เก็บได้ก็เอามาใช้กับเกมหลักได้ด้วย
* ใช้ Pad Pro ช่วยให้บังคับง่ายขึ้น หมุนมุมกล้องได้สะดวกมาก แต่ค่อนข้างเมื่อยนิ้วขวาเมื่อต้องเปลี่ยนมุมมองกับเล็งเป้าบ่อยๆ ถ้าถามว่าจำเป็นมั้ย บอกได้เลยว่าไม่ค่อยเท่าไหร่นะ
จุดดี
+ กราฟฟิค และเสียงประกอบทำได้ดีมาก
+ วิธีการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ
จุดเสีย
- เนื้อเรื่องไม่มีความแปลกใหม่
- การบังคับที่ค่อนข้างยากเมื่อเล่นบนเครื่องมือถือ
8/10 จ้า
By Ray

0 ความคิดเห็น: